เหตุการณ์สำคัญที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกนั้นหมายถึงเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงภายหลังสงครามสิ้นสุดลง ซึ่งพบว่าสหประชาชาติสามารถยับยั้งการทำสงครามอาวุธได้ในระดับหนึ่ง แต่เมื่อสงครามอาวุธผ่านไปเหตุการณ์ปัจจุบันจะกลายเป็นสงครามเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรม จารีตประเพณี รวมถึงการเมืองการปกครองในปัจจุบัน ซึ่งเหตุการณ์สำคัญในอดีตที่ส่งผลต่อปัจจุบันมีดังนี้
1. สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เป็นสงครามความขัดแย้งบนฐานการล่าอาณานิคม ระหว่างมหาอำนาจยุโรปสองค่าย คือ ฝ่ายไตรพันธมิตร (Triple Alliance) ซึ่งประกอบไปด้วยเยอรมนี และอิตาลี กับฝ่ายมหาอำนาจ (Triple Entente) ประกอบไปด้วยบริเตนใหญ่ฝรั่งเศสและรัสเซีย เกิดขึ้นในช่วง ค.ศ.1914-1918 (พ.ศ.2547-2461)
สาเหตุของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองของทวีปยุโรป โดยเป็นจุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของยุโรป การสิ้นสุดของจักรวรรดิออตโตมัน เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาของการปฏิวัติรัสเซีย การพ่ายแพ้ของประเทศเยอรมนีในสงครามครั้งนี้ ส่งผลให้เกิดลัทธิชาตินิยมขึ้นในประเทศ และเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อ พ.ศ.2482 (ค.ศ.1939)
ในช่วงแรกของสงครามมหาอำนาจกลางเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่หลังจากที่อเมริกาเข้าร่วมกับฝ่ายพันธมิตร พร้อมกับส่งอาวุธยุทโธปกรณ์และกำลังพลเกือบ 5 ล้านคน ทำให้พันธมิตรกลับมาได้เปรียบและสามารถเอาชนะฝ่ายมหาอำนาจกลางได้อย่างเด็ดขาด ในที่สุดเมื่อฝา่ ยมหาอำนาจกลางยอมแพแ้ ละเซ็นตส์ ัญญาสงบศึกเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1918 สงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งกินระยะเวลายาวนาน 4 ปี 5 เดือน จึงยุติลงอย่างเป็นรูปธรรม
วันที่ 22 พฤศจิกายน ปี 1963 (วันลอบสังหาร JFK)
ถือเป็นวันที่ชาวอเมริกันทั่วประเทศจนจำวันนี้ได้เป็นอย่างดี เมื่อประธานาธิบดีหัวสมัยใหม่และมีบทบาทต่อสงครามได้ถูกลอบสังหารโดยปืนไรเฟิลยิงเข้าที่หัวถึง 2 นัดด้วยกัน ซึ่งเป็นวันที่ประชาชนทั่วประเทศโศกเศร้าที่สุดอีกเหตุการณ์หนึ่ง ที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดโศกนาฎกรรมครั้งนี้ได้
ปฏิบัติการถล่มตึกเวิร์ลเทรด และเพนตากอนของสหรัฐฯ ด้วยการจี้เครื่องบินพุ่งชน จึงสร้างความสั่นสะเทือนในใจของชาวอเมริกันชนอย่างใหญ่หลวง พลเมืองอเมริกันออกเสียงสนับสนุนท่วมท้นต่อนโยบาย “ไม่อยู่ข้างเราก็เป็นศัตรูเรา” ของอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับบลิว บุช จนกำเนิดเป็นมาตรการการป้องกันแผ่นดินเกิด (Homeland defence) และปฏิบัติการตามล่าอัลกออิดะห์ ทั้งในอิรัก อัฟกานิสถาน และ ปากีสถาน
นี่เป็นเหตุผลหลักที่สหรัฐอเมริกาตัดสินใจดำเนินนโยบายต่อใจกลางโลกมุสลิม และส่งผลสะเทือนต่อเนื่องไปทั่วโลก ทั้งยังเปิดโอกาสให้รัสเซีย และจีน กลับสู่ตำแหน่งมหาอำนาจโลกอีกครั้ง
วันที่ 23 มีนาคม ปี 1933 (วันที่ฮิตเลอร์ครองอำนาจประเทศเยอรมัน)
แรกๆดูเหมือนว่าผู้คนจะไม่ค่อยได้จดจำวันสำคัญนี้สักเท่าไร แต่พอหลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว คนทั้งโลกล้วนจดจำจอมเผด็จการคนนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเหตุการณ์ที่สำคัญก็คือ การที่ฮิตเลอร์ได้ครองอำนาจและก็ทำการประกาศสงครามจนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากลืมลงกับสิ่งที่เขาได้ก่อกระทำขึ้นมา แต่ก็ถือว่าเป็นบทเรียนสำคัญต่อมนุษยชนของโลกด้วย
5.The Ides Of March (วันลอบสังหารจูเลียส ซีซาร์)
เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ชาวโลกทุกคนยากที่จะลืมเลือนเหตุการณ์นี้ไปได้และ เมื่อจอมเผด็จการผู้ยิ่งใหญ่ของโรมได้ถูกล่อลวงเข้ามาจนกระทั่งถูกลอบสังหารอย่างเหี้ยมโหดจากบรรดาเหล่าสมาชิกรัฐสภา ที่บรรดาเหล่าสมาชิกกรูเข้ามาล้อมวงทำร้ายโดยเอามีดแทงไม่ยั้งมือ นับว่าเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่พลิกแผ่นดินกรุงโรมเลยทีเดียว รวมไปถึงโลกของเราด้วย
วันที่ 28 มิถุนายน ปี 1914 (วันลอบสังหารฟรันซ์ แฟร์ดีนันด์)
ถือเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่เปลี่ยนแปลงโลกเมื่อพระองค์ได้ถูกลอบปลงพระชนม์จากพวกหัวรุนแรง โดยไม่รู้ว่ากระสุนที่เข้าตัวเขากำลังจะเปลี่ยนแปลงโลกในอีกไม่ช้า เมื่อพระองค์ได้สวรรคตแล้ว โลกทั้งใบเริ่มสั่นคลอน จนทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ขึ้นมา โดยมีประเทศต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ปี 2003 (โศกนาฎกรรมกระสวยอวกาศโคลัมเบีย)
แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ทางด้าน NASA ไม่มีวันลืมแน่นอน และเชื่อว่าคนทั้งโลกก็คงไม่ลืมแน่ๆ เมื่อได้สูญเสียนักบินอวกาศทั้ง 7 คนจากการที่กลับเข้ามาสู่โลก แต่ก็เกิดปัญหาขึ้นเมื่อขาดการติดต่อขณะที่กำลังจะทำการลงจอดและพบว่ามีอะไรผิดปกติในกระสวยจนทำให้กระสวยอวกาศแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆเหมือนลักษณะเป็นอุกาบาตตกลงมา นับได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ชาวโลกคงโศกเศร้าไปตามๆกัน
วันที่ 6 สิงหาคม ปี 1945 (เหตุการณ์การทิ้งระเบิดปรมาณูที่เมืองฮิโรชิม่า)
เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญที่สุดของมวลมนุษย์ชาติเลยก็ว่าได้เมื่อทางแฮรี่ ทรูแมน ประธานาธิบดีของอเมริกาในเวลานั้น ได้ทำการอนุมัติให้มีการทิ้งระเบิดปรมาณูที่เมืองฮิโรชิม่าได้ ที่ประเทศญี่ปุ่นยังไม่ยอมแพ้ต่อสงคราม จึงได้ทำการทิ้งระเบิด ซึ่งทำให้ชาวญี่ปุ่นบริสุทธิ์แสนกว่าคนเสียชีวิตทันที รวมไปถึงผู้บริสุทธิ์จำนวนมากต้องติดเชื้อเคมีจากการทิ้งระเบิดอีกด้วย
วันที่ 5 กันยายน ปี 1972 (วันสังหารหมู่ที่ Munich)
เป็นเหตุการณ์เกิดที่ประเทศเยอรมันตะวันตก ที่มีคนร้านจับตัวประกันซึ่งเป็นนักกีฬาโอลิมปิกประเทศอิสราเอล 11 คนเอาไว้และในที่สุดก็ได้ทำการฆาตกรรมพวกเขาทั้งหมด ซึ่งผู้ก่อการร้ายได้ยื่นข้อเสนอให้ปล่อยตัวนักโทษจำนวน 234 ที่ถูกขังคุกอยู่ในประเทศอิสราเอล การก่อการร้ายนี้มีการสนับสนุนจากพวกหัวนาซีสมัยใหม่ด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น